ในยุคที่การตลาดออนไลน์เป็นใหญ่ การปรับตัวจึงมีมากขึ้นและถี่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะโลกที่หมุนไปตามออนไลน์มันเร็วขึ้นเป็นเท่าทวีคุณยังไงล่ะ และในยุคนี้ที่เป็นยุคแห่ง B2C ยิ่งต้องปรับตัวให้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เพราะลูกค้าในยุค B2C นั้นเป็นมากกว่าพระเจ้า แถมยังหายากหาเย็นเหลือเกิน ดังนั้น บทความนี้เราจึงอยากช่วยคุณให้รอดพ้นยุค B2C ไปให้ได้ ด้วยเทคนิคที่คนนำเข้าของจากจีนควรนำไปปรับใช้ในยุค B2C นั่นเอง แต่เทคนิคที่คนนำเข้าของจากจีนควรนำไปปรับใช้ในยุค B2C จะมีเทคนิคใดบ้างนั้น ต้องตามมาดูกันเลย
รวมเทคนิคที่คนนำเข้าของจากจีนควรนำไปปรับใช้ในยุค B2C
- เทคนิคที่คนนำเข้าของจากจีนควรนำไปปรับใช้ในยุค B2C : ใส่รายละเอียดของสินค้าให้ครบ ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าอะไร และอยู่ใน Marketplace Platform ไหน สิ่งที่ควรทำอย่างแรกเลยคือใส่รายละเอียดของสินค้าให้ครบถ้วน เพราะถ้าลูกค้าสนใจแต่ไม่มีรายละเอียดของสินค้า ทำให้ลูกค้าที่สนใจจะต้องส่งคำถามมาถามคุณและรอคำตอบ รับรองได้เลยว่า 90% คุณอาจจะเสียลูกค้าไปให้กับผู้ขายรายอื่นๆ ที่ขายสินค้าเหมือนกันแต่มีรายละเอียดสินค้าที่ครบถ้วน
- เทคนิคที่คนนำเข้าของจากจีนควรนำไปปรับใช้ในยุค B2C : ตอบให้ดีตอบให้ไว ถ้าคุณใส่รายละเอียดสินค้าอย่างครบถ้วน แต่ลูกค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมแสดงว่าคุณใกล้จะขายสินค้าได้แน่ๆ แต่ถ้าคุณปล่อยให้ลูกค้าต้องรอคำตอบนาน ก็แน่นอนว่าคุณอาจจะเสียลูกค้าคนนั้นไปให้กับผู้ขายรายอื่นๆ ที่ขายสินค้าเหมือนกันแต่ตอบคำถามได้เร็วกว่า ฉะนั้น การทำข้อความอัตโนมัติจากคำถามที่คุณพบบ่อยๆ อาทิ สรรพคุณของสินค้า เป็นต้น จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
และเทคนิคที่คนนำเข้าของจากจีนควรนำไปปรับใช้ในยุค B2C เทคนิคสุดท้าย คือ แจ้งระยะเวลาในการส่งสินค้าให้ชัดเจน ลูกค้าไม่ชอบรอนั้นเรื่องจริง แต่ถ้าจะขยายความให้ชัดคือ ลูกค้าไม่ชอบรออย่างไม่มีจุดหมายต่างหาก การรอไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์นัก โดยเฉพาะการรออย่างไร้จุดหมาย ฉะนั้น หากคุรพอจะแจ้งให้ลูกค้าทราบได้ว่าของจะมาถึงมือลูกค้าประมาณวันนี้ๆ นะ ลูกค้าก็จะเต็มใจ เพราะเขารู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ที่ใดยังไงล่ะ